วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

ทวีปทั้งสี่

 ปัจจุบันโลกของเราตามความรู้ทางภูมิศาสตร์แบ่งเป็นทวีปต่าง ๆ อาทิ ทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตเรีย แอนตาร์กติก เป็นต้น โดยการแบ่งนั้นเป็นการใช้ความรู้สมัยใหม่ แต่เมื่อเราอ่านวรรณคดีไทยเรื่องต่าง ๆ เราก็จะเห็นว่ามีปรากฏชื่อทวีปที่แตกต่างจากปัจจุบัน และมีจำนวนน้อยกว่าอีกด้วย คือมีเพียงสี่ทวีปเท่านั้น และในแต่ละทวีปมีคนอยู่ที่มีลักษณะแตกต่างกัน โดยการแบ่งเป็นทวีปทั้งสี่ใช้เขาพระสุเมรุเป็นหลักของโลก จากนั้นแบ่งเป็น ๔ ทิศ แต่ละทิศมีทวีปประจำอยู่ ดังในวรรณคดีไทยเรื่องไตรภูมิพระร่วงได้กล่าวไว้ดังนี้
          ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมรุมีแผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่เรียกว่า อุตตรกุรุทวีป คนที่อยู่ในอุตตรกุรุทวีปนั้น มีรูปหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส พวกนี้มีอายุยืนยาวอยู่ได้ถึงพันปี ทั้งนี้เพราะคนในอุตตรกุรุทวีปนี้เป็นคนอยู่ในศีลธรรม มีการรักษาศีล ทำบุญมิได้ขาด ขยันทำมาหากินตั้งแต่คนหนุ่มถึงคนแก่ กำลังก็มิได้ถดถอยเลย อากาศในทวีปนี้ไม่มีร้อน ไม่มีหนาว คนพวกนี้จึงอยู่ดีกินดี ร่างกายแข็งแรงเสมอ ลักษณะภูมิประเทศไม่มีที่ใดต่ำหรือสูง เรียบเสมอเท่ากันหมด ที่ใดเป็นหนองบึงก็มีดอกบัวบานสะพรั่งดูสวยงามยิ่ง ต้นไม้ในทวีปนี้สูงเสมอกัน ลำต้นตรงงาม ไม่มีคดงอ ไม่มีหนอนด้วงเจาะไชให้เป็นตำหนิ บ้านเรือนของคนในทวีปนี้สร้างเป็นตึก ตั้งอยู่ติดต่อกันไปตลอด ในอุตตรกุรุทวีปนี้มีสิ่งแปลกประหลาดอย่างยิ่งคือ ต้นข้าวที่เกิดขึ้นมา ออกรวงเป็นข้าวสารทันที มีโชติปราสาทหลังหนึ่ง ภายในมีหินพิเศษก้อนหนึ่ง เวลาใครจะหุงข้าว ก็เอาข้าวสารใส่หม้อ แล้วนำหม้อขึ้นตั้งบนก้อนหินนั้น ความร้อนจากก้อนหินก็จะทำให้ข้าวสุกได้ เมื่อข้าวสุกไฟจากก้อนหินก็จะดับเอง ส่วนอาหารเมื่อประสงค์สิ่งใดก็จะเกิดมีมาเอง นอกจากนี้ยังมีต้นกัลปพฤกษ์ขนาดใหญ่ ลำต้นสูง ๑๐๐ โยชน์ กว้าง ๑๐๐ โยชน์ วัดโดยรอบลำต้นได้ ๓๐๐ โยชน์ ใครต้องการสิ่งใดก็ให้ไปอธิษฐานที่ต้นกัลปพฤกษ์นั้น แล้วก็จะได้ดังใจปรารถนา ความสุขของคนในอุตตรกุรุทวีปนั้นเปรียบเหมือนเมืองสวรรค์ คนในทวีปนี้มีแต่ความร่าเริง ไม่มีความทุกข์ ร้องรำทำเพลงกันอยู่ตลอดเวลา
          ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุมีทวีปอีกทวีปหนึ่งชื่อ บุรพวิเทห์ทวีป คนในทวีปนี้มีลักษณะหน้ากลมเปล่งปลั่งดังดวงจันทร์วันเพ็ญ คนที่อยู่ในทวีปนี้มีอายุยืนร้อยปี เป็นคนอยู่ในศีลธรรมเช่นเดียวกับคนในอุตตรกุรุทวีป คนทั้งหลายในบุรพวิเทห์ทวีปเคารพบิดามารดา ครูอาจารย์ ไม่คดโกง อยู่รวมกันเป็นบ้านเมือง มีเจ้าเมืองปกครองด้วยความมีระเบียบ ลักษณะภูมิประเทศของทวีปนี้เป็นที่สูง ที่ต่ำ มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย
          ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมรุมีทวีปอยู่อีกทวีปหนึ่งเรียกว่า อมรโคยานทวีป คนในทวีปนี้มีลักษณะใบหน้าเหมือนเดือนข้างแรม มีอายุยืนยาวถึงสี่ร้อยปีจึงตาย ลักษณะจิตใจนั้นก็เช่นเดียวกับคนในอุตตรกุรุทวีปและบุรพวิเทห์ทวีปคือ มีศีลธรรมประจำใจอยู่เป็นนิตย์ ลักษณะภูมิประเทศของทวีปนี้เป็นเกาะแก่ง มีแม่น้ำกว้างใหญ่ ริมฝั่งแม่น้ำมีบ้านเรือน อาคารตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง
          ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุมีทวีปหนึ่งตั้งอยู่ชื่อว่า ชมพูทวีป คือแผ่นดินที่พวกเราอาศัยอยู่ คนในทวีปนี้มีใบหน้ามีลักษณะกลมดังดุมเกวียน ไม่ค่อยมีรูปร่างงดงาม คนในทวีปนี้ไม่มีศีลธรรม บางครางก็ดี บางคราวก็ร้าย ไม่รู้จักเคารพกันสักเท่าใดนัก หากว่าคราวใดคนมีศีลธรรม อายุก็ยืน บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรือง หากคราวใดคนไม่มีศีลธรรม บ้านเมืองก็วุ่นวาย เกิดความทุกข์ยากนานาประการ
          ทวีปทั้งสี่มีมหาสมุทรล้อมรอบแตกต่างกันดังนี้คือ
          อุตตรกุรุทวีป มีมหาสมุทรล้อมรอบเรียกว่า ปีตะสาคร มีน้ำเป็นสีเหลือง หรือสีทอง
          บุรพวิเทห์ทวีป มีมหาสมุทรล้อมรอบเรียกว่า ขีรสาคร หรือเรียกว่า เกษียรสมุทร เป็นมหาสมุทรที่พระนารายณ์บรรทมอยู่ 
          อมรโคยานทวีป มีมหาสมุทรล้อมรอบเรียกว่า ผลึกสาคร สีของน้ำในมหาสมุทรใสดังแก้วผลึก
          ชมพูทวีป มีมหาสมุทรล้อมรอบเรียกว่า นิลสาคร มีน้ำในมหาสมุทรเป็นสีดำ
          ทวีปทั้งสี่ที่คนโบราณได้จำแนกไว้แสดงถึงภูมิปัญญาอันชาญฉลาดในการตั้งหลักเกณฑ์เพื่อจำแนกเป็นทวีปต่าง ๆ สี่ทวีป และจะเห็นว่าลักษณะคนในชมพูทวีปนั้นก็สอดคล้องกับคนในปัจจุบันยิ่งนัก มีทั้งคนดีและคนชั่ว แต่ปัจจุบันอาจมีคนชั่ว คนร้ายมากกว่าคนดี บ้านเมืองจึงวุ่นวายตลอด พวกเราน่าจะช่วยกันประพฤติปฏิบัติตนให้มีคุณลักษณะ คุณสมบัติเฉกเช่นเดียวกับคนในอุตตรกุรุทวีป บุรพวิเทห์ทวีป และอมรโคยานทวีป ประเทศของเรา โลกของเราก็จะสงบสุข เรามาช่วยกันน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น